รัสเซีย ยูเครน : เซเลนสกี เยือนสหรัฐฯ หวังซื้อใจอเมริกันให้หนุนยูเครนต่อไป

เซเลนสกี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก นับแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2565 และประเทศแรกที่เขาเลือกเดินทางเยือน คือ สหรัฐอเมริกา

ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา เซเลนสกีขึ้นทักทายต่อรัฐบาลและรัฐสภาของหลายประเทศมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่าล้วนเป็นการปราศรัยผ่านระบบเทเลคอนฟีเรนซ์ ด้วยภาพลักษณ์ผู้นำยูเครนนั่งอยู่ลำพัง ในห้องไร้หน้าต่าง และชุดสีเขียวมะกอกแบบทหาร ทักทายโดยไม่มีสคริปต์พูด

เวลานี้ เซเลนสกีเดินทางออกนอกยูเครนเป็นครั้งแรก สู่กรุงวอชิงตัน ดีซี และหากแม้เขาจะแต่งตัวในชุดสีเขียวแบบทหารอย่างเดิม แต่เขาขึ้นปราศรัยต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ศูนย์กลางแห่งอำนาจ

ก่อนที่จะรัสเซียจะส่งทหารบุกยูเครน รัสเซียพยายามโน้มน้าวชาวยูเครนให้มั่นใจว่า สหรัฐฯ กำลังใช้ยูเครนเป็นหมากทางการเมืองโลก และในที่สุด อเมริกาจะละเลยพวกเขา ดังที่ทำกับอัฟกานิสถาน

แต่ว่า 10 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือให้ยูเครน คิดเป็นมูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,254,200 ล้านบาท) และเราได้เห็นภาพผู้นำโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนายเซเลนสกี นั่งหารือกันในห้องรูปไข่ที่ทำเนียบขาว ด้วยท่าทีชื่นบานและเป็นกันเอง

เซเลนสกี้ ไบเดน

พลังแห่งเอกภาพ

“ปีที่ผ่านมา เกิดความทุกข์ทรมานมหาศาล ชาวยูเครนต้องล้มตาย” ไบเดน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมที่ทำเนียบขาว “แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์​ เซเลนสกี ว่า ชาวอเมริกันยืนหยัดเคียงข้างคุณในทุกก้าวย่าง และเราจะอยู่กับคุณ”

นี่เป็นคำกล่าวที่ทรงอำนาจ แต่ว่าในความเป็นจริงนั้น สถานการณ์ซับซ้อนกว่านั้น

เพราะผู้สนับสนุนของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับหน้าหนาวที่นาน แม้กระนั้นราคาพลังงานกลับพุ่งสูง ไม่นับผลพวงของสงครามต่อเศรษฐกิจ

ส่วนเสียงช่วยเหลือของชาวอเมริกัน ต่อการส่งความช่วยเหลือเกื้อกูลไปยูเครนนั้น แม้ว่าจะยังนับว่าสูง แม้กระนั้นก็บั่นทอนลดลงไปๆมาๆก เมื่อเทียบกับช่วงแรกของสงคราม

ผลของการสำรวจความคิดเห็นเมื่อไม่นานมานี้ แสดงให้เห้นว่า ชาวอเมริกันกว่า 1 ใน 3 ไม่สนับสนุนการที่สหรัฐฯ จะส่งความให้การช่วยเหลือไปยูเครน และกว่าครึ่งอยากที่จะให้ยูเครนสนทนาความสงบกับรัสเซีย “ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

การพบกันครั้งสำคัญระหว่างหัวหน้าสหรัฐฯ และผู้นำยูเครนในกรุงวอชิงตัน ดีซี เป็นการแสดงให้ประชาชนชาวยูเครนและอเมริกัน รวมถึงพันธมิตรชาติตะวันตก รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และทั้งโลกว่า สหรัฐฯ ยังส่งเสริมยูเครนอย่างเอาจริงเอาจังและแข็งขัน

ตลอดการแถลงข่าวร่วม นายไบเดน และเซเลนสกี พยายามอธิบายว่าความช่วยเหลือของอเมริกันต่อยูเครน มีจุดหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

ผู้นำสหรัฐฯ บอกว่า การจู่โจมยูเครนของรัสเซีย เป็นการจู่โจม “เสรีภาพและประชาธิปไตย และหลักอธิปไตยและบูรณภาพดินแดน” ซึ่งเป็นเหตุผลเพียงพอที่สหรัฐฯ ควรจะโต้กลับ

ด้านนายเซเลนสกี ใช้ถ้อยคำเชิงจริงจังและตลกขบขันบ้าง ระหว่างพูดคุยกับนายไบเดน และกล่าวต่อคนอเมริกัน โดยเน้นการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อติดต่อสื่อสารตรงถึงคนฟัง และเรียกการช่วยสนับสนุนยูเครนของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การลงทุน” เพื่อสร้างเสริมความมั่นคงและยั่งยืนโลกให้เข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นการเลือกใช้คำที่น่าดึงดูด และเป็นคำเดียวกันนี้ ก็พูดย้ำอีกครั้งในสภาคองเกรส

ความหมายคือ ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ไม่ใช่ “การกุศล” แต่ว่าเป็นเงินที่ใช้เพื่อจุดมุ่งหมายยิ่งใหญ่ และจะได้รับผลตอบแทนกลับมาในอนาคต

เซเลนสกี้ ไบเดน

เซเลนสกี้ หวังซื้อใจนักการเมืองสหรัฐฯ

อนาคตของ “การลงทุน” ของอเมริกันต่อยูเครน ไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือของนายไบเดนเพียงคนเดียว เพราะเหตุว่าแม้การพบปะสนทนากันระหว่างนายเซเลนสกีและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว จะเป็นจังหวะถ่ายรูปเชิงเครื่องหมายที่ทรงประสิทธิภาพ แต่งานที่แท้จริงของนายเซเลนสกี คือ การอภิปรายต่อสภาคองเกรส ต่อเหล่านักการเมืองที่เป็นผู้กุมบังเหียนเงินสนับสนุนทางการทหารและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ตลอดปีที่ผ่านมา สภาคองเกรสอนุมัติเงินราว 67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรูปแบบการช่วยเหลือเกื้อกูลด้านเศรษฐกิจและทางด้านทหารให้กับยูเครน และในแผนงบประมาณปี 2023 ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะผ่านร่างกฎหมายในสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอมอบความช่วยเหลือให้ยูเครนอีก 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การรับประกันเงินช่วยเหลือให้ยูเครนสำหรับปี 2023 ถือได้ว่าความท้าทายอีกทั้งต่อนายไบเดนและเซเลนสกี

เพราะเมื่อเดือน พฤษภาคม 2022 สมาชิกสภาผู้แทนพรรครีพับลิกัน 57 คน และวุฒิสมาชิก 11 ที่นั่ง ลงคะแนนคัดค้านการมอบเงินช่วยเหลือดังกล่าว ไม่เพียงเท่านั้น ผลที่ได้รับจากการสำรวจข้อคิดเห็นชี้ว่า เสียงเกื้อหนุนการมอบเงินช่วยเหลือยูเครนต่อจากฟากฝั่งผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันได้ลดลงอย่างมาก

ผลที่เกิดจากการสำรวจเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2022 พบว่า ผู้ส่งเสริมและสนับนุนรีพับลิกันกว่าครึ่งยังเกื้อหนุนการส่งความช่วยเหลือไปยูเครน แม้กระนั้นก็ถือว่าลดลงจาก 80% เมื่อเดือน มี.ค. 2022

นักการเมืองรีพับลิกันที่ออกหาเสียงลงคะแนนกลางเทอมเมื่อเดือนที่ผ่านมา แสดงความเห็นเชิงถกถามต่อการที่สหรัฐฯ ต้องทุ่มเงินมหาศาลให้กับประเทศที่แสนห่างไกล แทนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้พรมแดน และต่อสู้อาชญากรรมในประเทศตัวเอง

การเลือกตั้งกลางเทอม ทำให้สภาผู้แทน มีสมาชิกใหม่ 86 คน และวุฒิสภามีสภาชิกใหม่ 7 คน ฉะนั้น สุนทรพจน์ของนายเซเลนสกี อาจมองได้ว่าเป็นการนำเสนอและจูงใจนักการเมืองกลุ่มนี้ เพื่อระดมเสียงเกื้อหนุน ให้ผ่านร่างงบประมาณสนับสนุนยูเครน

“เรามียุทโธปกรณ์ แต่นั่นมันเพียงพอหรือ ไม่เลย” เซเลนสกี กล่าว “การจะทำให้กองทัพรัสเซียถอนทัพออกไป เราต้องการปืนและกระสุนมากกว่านี้อีก”

ประธานาธิบดียูเครนปิดการปราศรัย โดยมอบธงชาติยูเครนที่เหล่าทหารผู้พิทักษ์เมืองด่านหน้าของยูเครน ร่วมกันลงชื่อ ให้กับสภาคองเกรสสหรัฐฯ