ปิเก้อำลาแฟนคลับครั้งสุดท้าย หลังแขวนสตั๊ด

“ผมเกิดที่นี่และผมจะตายที่นี่” เคราร์ด ปิเก้ แขวนสตั๊ดในวัย 35 ปี หลังเกมสุดท้ายกับบาร์เซโลนาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

วันเสาร์ที่ 5 พ.ย. เป็นวันที่ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังบาร์เซโลนา และก็สมัยก่อนนักเตะทีมชาติสเปนชุดแชมป์ยูโร 2012 และก็แชมป์โลกปี 2010 ได้ล่ำลาสนามอย่างเป็นทางการ หลังเกมสุดท้ายที่บาร์เซโลนาเปิดบ้านสปอติฟาย คัมป์นู เอาชนะอัลเมเรียไป 2-0

อำลาปิเก้

ปิเก้ กองหลังวัย 35 ปี

ถูกเปลี่ยนแปลงออกในนาทีที่ 84 ก่อนที่จะเข้าโอบกอดกับเพื่อนฝูงร่วมทีม และก็ ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือของกลุ่มที่เคยเล่นร่วมกับปิเก้ ก่อนที่จบเกมเขาได้กล่าวคำอำลากลุ่มเป็นคราวสุดท้ายในฐานะนักเตะอาชีพ

“เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น คุณจะค้นพบว่าบางครั้งความรักคือการปล่อยวาง ผมเชื่อว่าผมจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในอนาคต” ปิเก้กล่าวหลังจบเกม

“นี่เป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักและแพสชันในการเล่นให้กับบาร์เซโลนา ผมคิดว่านี่เป็นเวลาที่เราต้องให้พื้นที่ห่างจากกัน

“ผมรักบาร์ซา และนั่นคือเหตุผลที่ผมคิดว่านี่คือเวลาเหมาะสมที่จะไป แต่ผมยืนยันว่านี่ไม่ใช่การบอกลา

“ผมออกจากสโมสรแห่งนี้ในวัย 17 ปี เพราะผมคิดว่าผมต้องการเวลาที่จะไปเติบโต ผมอยากจะบอกกับคุณทุกคน ทุกคนรู้ดีว่าผมเป็นสมาชิกของทีมนี้ตั้งแต่เกิด ผมเกิดที่นี่และผมจะตายที่นี่”

สำหรับวันสุดท้ายของปิเก้ในฐานะนักเตะของบาร์เซโลนา เขาเดินลงสนามมาในตำแหน่งกัปตันกลุ่ม พร้อมทั้งลูกๆของเขา ช่วงเวลาที่เพื่อนฝูงร่วมทีมสวมเสื้อที่มีหมายเลขและก็ชื่อของเขา

ในช่วงเวลาที่แฟนบอลบนอรรธจันทร์ได้ขึ้นป้ายที่เขียนว่า Sempr3 หรือที่มีความหมายว่า ตลอดไป (For3ver) พร้อมทั้งหมายเลขเสื้อของปิเก้

ปิดตำนานปิเก้

ก่อนที่เกมจะจบลงพร้อมกับปิเก้ที่ถูกเพื่อนฝูงร่วมทีมอุ้มและโยนขึ้นฟ้า เพื่อร่วมล่ำลาตำนานของสโมสร

สำหรับปิเก้ ได้ประกาศล่ำลาสนามเมื่อวันพฤหัสบดีก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะยังเหลือคำสัญญาอยู่กับสมาคมถึง 18 เดือน แต่ว่าการตัดสินใจล่ำลาได้ช่วยให้สมาคมบริหารจัดการบัญชีค่าแรงของนักเตะได้ดิบได้ดีขึ้น

ปิเก้ถือว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ได้รับการเชิดชูเยอะที่สุดในยุโรป เขาได้โอกาสได้เติบโตและก็ทำความเข้าใจที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคที่มีปราการหลังที่อดทนอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และก็ เนมันยา วิดิช และก็ได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกทีแรกในอาชีพที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดู 2007/08

การบรรลุผลของเขาเติบโตขึ้นโดยตลอดต่อจากนั้น เมื่อเขาย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลนา พาทีมครอบครองแชมป์ลาลีกาไปถึง 9 ยุค และก็แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีก 3 ยุค

ปิเก้กลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นให้กับบาร์เซโลนาเยอะที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ตามหลังเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มอย่าง ลิโอเนล เมสซี (778) ชาบี เอร์นานเดซ (767) เซร์คิโอ บุสส์ (694) และก็ อันเดรส อิเนียสตา (674)

กับกลุ่มชาติเขาอยู่ในยุคที่บอลสเปนครอบครองโลกบอล ด้วยการจับคู่กับ การ์เลส ปูโยล พาทีมชาติสเปนครอบครองแชมป์โลกในปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ และก็แชมป์ยูโร 2012

“เขาเป็นคนที่มีบุคลิกที่ยิ่งใหญ่ นักเตะที่เหมาะสำหรับเกมใหญ่เขาไม่เคยพลาด สโมสรใหญ่ต้องการนักเตะแบบนี้ นับเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับเขาในฐานะผู้จัดการทีม” เป๊ป กวาร์ดิโอลา อดีตกุนซือของปิเก้ที่บาร์เซโลนากล่าวถึงเขา